ป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าของฟิลิปส์ ค.ศ. 1952

ป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าของฟิลิปส์ ค.ศ. 1952

ในช่วงปีค.ศ. 1952 (หรือปีพ.ศ. 2495) เครื่องใช้ไฟฟ้าฟิลิปส์เป็นผลิตภัณฑ์สัญชาติดัตช์ หรือ ฮอลแลนด์ ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยยี่ห้อหนึ่ง รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด แสดงไว้ในรูปประกอบ QR Code นี้แล้ว

กล่าวถึงป้ายโฆษณาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าของฟิลิปส์ที่นำเสนอนี้ เป็นป้ายที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เป็นโฆษณาทางการตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าของบริษัทที่ผลิตออกจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าวโดยมีการผลิตป้ายออกมาเป็นสองภาษากล่าวคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (ดังภาพประกอบ) โดยเป็นป้ายอีนาเมลที่มีความคงทนสูง และนิยมใช้เป็น Outdoor Banner ทางการค้าในยุคนั้น อายุของป้ายนั้นสามารถสอบทานได้จากอุปกรณ์ที่แสดงไว้ในป้ายโฆษณาสินค้าดังกล่าว กล่าวคือในป้ายโฆษณาสินค้าชนิดภาษาอังกฤษจะเห็นอุปกรณ์ทางการแพทย์บริเวณมุมซ้ายของป้าย (ที่นางพยาบาลถืออยู่) ในป้ายโฆษณาสินค้าภาษาไทยจะเป็นรูปเตาแก๊สทั้งนี้น่าจะเนื่องมาจากกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่ต่างกันออกไปนั่นเอง โดยจากรูปอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดนี้นี่เองที่ทำให้สามารถประเมินปีที่ผลิตป้ายโฆษณาสินค้าใบนี้ได้อย่างถูกต้อง โดยจากข้อมูลผลิตภัณฑ์ของฟิลิปส์ พบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเรียกว่า Infraphil Heat Lamp, Model 7525 มีทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแขวนผนัง โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวดำเนินการออกแบบเพื่ออุตสาหกรรมโดย Charlotte Perriand ในปีค.ศ. 1952 ใช้ทางการแพทย์เพื่อลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ (รายละเอียดดูในภาพประกอบ) ซึ่งเป็นปีเดียวกับการผลิตป้ายโฆษณาดังกล่าว ป้ายดังกล่าวนี้ผลิตและนำเข้าจากประเทศฮอลแลนด์ โดยที่ขอบมุมขวาของป้ายจะระบุสถานที่ผลิตไว้ดังนี้ “ANGCAT BUSSUM HOLLAND” ซึ่งBUSSUMก็คือ Commuter Town (เมืองที่มีคนเดินทางไป-กลับเป็นประจำ) โดยเป็นเทศบาลเก่าในเขตภูมิภาค Het Gooi ทางตอนเหนือของประเทศฮอลแลนด์ และเนื่องจากผลิตในต่างประเทศนี่เองที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการเขียนภาษาในป้ายไทย โดยชื่อฟิลิปส์ เขียนเป็น “ฟิลิปสฺ”โดยตัวการันต์ซึ่งชาวฮอลแลนด์ไม่รู้จักจึงไม่ได้เขียนแต่ใส่เป็นเครื่องหมายจุดใต้ตัว ส แทนนั่นเอง อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของป้ายภาษาไทยของโฆษณาสินค้ารุ่นนี้และทำให้เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมป้ายโฆษณาสินค้าอีนาเมล

ป้ายอีนาเมลโฆษณาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าของฟิลิปส์ที่ผลิตในปีค.ศ. 1952 นี้เป็นป้ายโฆษณาสินค้าที่นักสะสมในประเทศไทยจัดให้เป็น Top Five ของป้ายโฆษณาเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้ายชนิดภาษาไทยที่ค่อนข้างหายากกว่าป้ายภาษาอังกฤษเพราะผลิตออกมาจำนวนน้อยกว่า โดยปัจจุบันราคาค่านิยมในการสะสมต่อหนึ่งชุดตกอยู่ที่หลักแสนกลางนั่นเองครับ